จองตั๋วเครื่องบินแอฟริกาใต้ (South Africa)

ตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษสุดๆ สำหรับทุกท่าน สามารถติดต่อสอบถามได้ที่...

โทร : 088-7653127, 081-8938358, 076-522863
อีเมลย์ : PhuketNavigator@hotmail.com

แอฟริกาใต้ สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ (อังกฤษ: Republic of South Africa) หรืออาจเรียกสั้น ๆ ว่า แอฟริกาใต้ (ต่างจาก "แอฟริกาตอนใต้" ซึ่งเป็นภูมิภาคประกอบไปด้วยหลายประเทศ รวมถึงประเทศแอฟริกาใต้ด้วย) เป็นประเทศอิสระที่อยู่ตอนปลายทางใต้สุดของทวีปแอฟริกา มีพรมแดนติดกับประเทศนามิเบีย บอตสวานา ซิมบับเว โมซัมบิก และสวาซิแลนด์ นอกจากนี้ยังมีเลโซโทซึ่งเป็นประเทศที่ถูกล้อมรอบทุกด้านด้วยอาณาเขตของประเทศแอฟริกาใต้ รวมทั้งยังเป็นประเทศส่งออกเพชรและทองคำ

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวแอฟริกาใต้ - ตั๋วเครื่องบินราคาถูก

แอฟริกาใต้

การท่องป่าซาฟารี (Safari) ไฮไลท์ ของการเที่ยวแอฟริการใต้ คือ การท่องเที่ยวแบบซาฟารี ชมสัตว์ป่าที่มีชีวิตอยู่อย่างอิสระเสรีตามธรรมชาติ ในป่าซึ่ง ป่าโปร่ง ป่าละเมาะ และทุ่งหญ้า สะวันนา จนถึงกึ่งทะเลทราย แอฟริกาใต้ มีสัตว์ป่ากว่า 220 ชนิด แรงเจอร์ (Ranger) หรือผู้พิทักษ์ป่าและนักตามรอย (Tracker) จะเป็นผู้ขับรถพาชม สัตว์ป่าซาฟารี รถที่ จัดพานั่งชมถ้าเป็นในอุทยานแห่งชาติ จะเป็นรถตู้ หรือรถจิ๊ปมีหลังคา ถ้าเป็นเกมรีเสิร์ฟเอกชนที่ไม่ปล่อยเสือและสิงโตเดินเป็นอิสระ จะให้นั่งรถเปิดประทุนควรออกชมสัตว์ตั้งแต่เช้ามืด ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น เพราะเป็นเวลาที่สัตว์หากินกลางคืน ยังคงเดินวนเวียนและหากินกลางวันเริ่มออกหากินเป็นช่วงที่พบเห็นสัตว์ได้มากชนิดที่สุด ช่วงบ่ายถึงเย็น สัตว์หากินกลางคืนเริ่มตื่น นอน สัตว์หากินกลางวันจะมาชุมนุมตามบ่อน้ำ การดักเฝ้าดูใกล้ ๆ บ่อน้ำจะได้เห็นสัตว์หลายชนิดรวมทั้งอาจได้ภาพของฝูงเสือและ สิงโต ในเวลากลางวันอากาศจะร้อนจัด สัตว์ส่วนใหญ่จะหลบ ร้อนในที่ร่ม สิงโตและ เสือชีต้า จะนอนอยู่ใต้ต้นไม้ในพงหญ้า ส่วนเสือดาวจะนอนอยู่บนคาคบไม้ ตอนกลางคืนสัตว์ประเภทล่าเนื้อจะออกหากิน การออกไปส่องชมสัตว์อาจจะได้เห็นการล่าเหยื่อ สัตว์ใหญ่ 5 ชนิด แห่งป่าซาฟารี หรือThe Big Five คือ ช้าง แรด ควายป่า เสือดาวและ สิงโต คุณสามารถจองตั๋วเครื่องบินเพื่อสัมผัสความสวยงามได้เลยค่ะ

เมืองโจฮันเนสเบอร์ก เมืองโจฮันเนสเบอร์ก หรือที่ชาวแอฟริกาใต้เรียกกันสั้นๆ ว่า โจเบิร์ก ซึ่งเป็นเมืองธุรกิจมาตั้งแต่เมื่อร้อยกว่าปีก่อน และได้รับฉายาว่า The Gold City ในช่วงศตวรรษที่ 20 มีการแบ่งแยกสีผิว ทำให้เกิดชุมชนต่างผิวขึ้นคนละมุมเมือง โดยแยกเป็นเมืองคนขาว คือ Sandton และเมืองคนดำคือ Soweto เป็นเมืองลูกรายล้อมโจเบิร์ก ในปัจจุบันโจเบิร์กคลาคล่ำไปด้วยผู้คนและอาคารสูงทันสมัยเหมือนกรุงเทพฯบ้านเรา จะแตกต่างก็ตรงที่รถไม่ติดมากเหมือนเรา เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ถือได้ว่าเป็นทางผ่านเข้าสู่ทวีปแอฟริกา และเป็นด่านแรกของการเดินทางเข้าสู่อัฟริกาใต้ ตัวเมืองโจฮันเนสเบิร์กทุกวันนี้มีลักษณะไม่ต่างกับเมืองใหญ่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นนิวยอร์ก โตเกียว หรือ ริโอเดอจาเนโร เพราะพลุกพล่านไปด้วยผู้คนและตึกสูงระฟ้า แต่จุดที่น่าสนใจสำหรับการท่องเที่ยวส่วนมากจะอยู่รอบนอกของโจฮันเนสเบิร์ก ตัวเมืองจึงเป็นเสมือนจุดผ่านด่านแรกของการเดินทางสู่อัฟริกาใต้ และเพื่อการทำธุรกิจมากกว่าการท่องเที่ยวหรือช้อปปิ้ง

แหลมกู๊ดโฮป แหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope) แหลม ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก อยู่ห่างจากเคปทาวน์ราว60กิโลเมตร ในเขตสงวน Cape of Good Hope Nature Reserveแหลมนี้ไม่ใช่ส่วนใต้ที่สุดของทวีปแต่มีชื่อเสียงมากกว่า แหลม ที่อยู่ใต้สุดคือ CapeAgulhasปลายสุดของแหลมมีประภาคาร เห็นรอยตะเข็บที่มหาสมุทรอินเดียกับแอตแลนติกมาพบกันได้ อย่างชัดเจนบนผิวน้ำอากาศบริเวณนี้จะแปรปรวนในทะเลมีหมอก จัดเพราะกระแสน้ำที่มีอุณหภูมิไม่เท่ากันมาปะทะกัน ยากต่อการเดิน เรือในสมัยโบราณ และก่อให้เกิดภาพหลอนมิติอันลึกลับและเรื่องเล่า ขานเกี่ยวกับฟลายอิ้งดัตซ์แมน ( Flying Dutchman) เรือที่พยายามจะ อ้อม ผ่านแหลมกู๊ดโฮปแต่ทำไม่สำเร็จ สูญหายไปเป็นเวลาหลาย ศตวรรษมาแล้ว แต่ยังมีผู้เห็นเรือปีศาจลอยลำหาทางไปในทะเล หมอกหนาทึบจนทุกวันนี้